IPI Singapore: The National Innovation Intermediary
วันที่ 3 (วันสุดท้าย) ของการศึกษาดูงานและถอดบทเรียนจาก Accelerators ในประเทศสิงคโปร์
หน่วยงานสุดท้ายที่เราได้ไปเยี่ยมชมและเรียนรู้คือ IPI Singapore ที่เป็น subsidiary ของหน่วยงานที่ได้เล่าไปแล้วในวันแรกคือ Enterprise Singapore (ที่อยู่ภายใต้กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม) ทำหน้าที่ในการเป็นตัวเร่งนวัตกรรมในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม โดยการจับคู่ระหว่างผู้ที่มีเทคโนโลยีพร้อมใช้งาน (Tech Provider) ที่มาจากทั่วโลก กับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหรือสร้างธุรกิจจากเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Tech Seeker) โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือ SMEs และ MNCs ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์
จุดแข็งของ IPI ที่ทำงานมาอย่างยาวนานคือการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับภาคเอกชน และการเป็นพันธมิตรในการทำงานโดยปราศจาก conflict of interest เนื่องด้วย IPI เป็น intermediary organization ที่ไม่มีนักวิจัยเป็นของตนเอง แต่จะ sourcing เทคโนโลยีจากแหล้่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับภาคธุรกิจเอกชนที่ต้องการ โดยมีทั้งทีปรึกษาด้านเทคโนโลยีในสาขาต่างๆ จำนวนมาก และ ที่ปรึกษาทางด้านธุรกิจที่มีความรู้ในอุตสาหกรรมนั้นจริงๆ มาเป็นผู้ให้คำแนะนำในเรื่องของกลยุทธ์ในการ “go to market” ที่สำคัญและจำเป็นมากๆ (และประเทศเราก็ต้องการความเชี่ยวชาญในเรื่องเหล่านี้มากเช่นกัน)
ถ้าอธิบายเป็นภาษาง่ายๆ ให้พอเข้าใจ (เพราะคนเข้าใจบทบาทของ IPI ผิดอยู่พอสมควรว่าทำหน้าที่แค่จัดงาน Tech Innovation ให้นักวิจัยหรือธุรกิจมาแสดงผลงานเพื่อจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำงานเท่านั้น) IPI เปรียบเสมือน match maker ที่ช่วยคัดกรองคู่ที่เหมาะสมให้ได้เจอกัน และ facilitate การจับคู่ตลอดกระบวนการ และยังทำมากกว่านั้นโดยการช่วยวางแผน wedding ให้ทั้งหมด ตลอดไปจนถึงการวางแผนครอบครัวหลังจากแต่งงานกันแล้วด้วย คือดูตลอดทั้ง value chain จริง ๆ
ที่ผ่านมามีผลงานที่สำเร็จเยอะมาก แต่เค้าก็บอกว่าไม่ใช่ทุกโครงการจะสำเร็จเสมอไป ขึ้นกับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ IPI มี value proposition ที่ต่างจาก intermediary อื่นๆ และไม่เหมือน VC Accelerator เลยในประเด็นของการให้บริการที่รัฐ subsidized และจะไม่ถือหุ่นหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารจัดการของธุรกิจ
จะเห็นได้ว่า Singapore ออกแบบ Innovation Ecosystem ได้ครบถ้วนมาก มี intermediary organization ครบในทุกบทบาทและมีจำนวนมากพอในการทำงานให้กับประเทศ
มีหลาย ๆ อย่างที่เราน่าจะเรียนรู้จาก IPI ได้เยอะเลย และเป็นความโชคดีที่เพื่อนสนิทของผมทำงานเป็นผู้บริหารที่นี่ ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ง่ายขึ้นและมีโอกาสร่วมมือกันได้สูงมาก รอติดตามนะครับว่าจะมีโครงการอะไรดี ๆ เกิดขึ้นหลังจากนี้